ประกันเหมาจ่ายค่ารักษาโรคร้ายแรงแคร์พลัสสูงสุด5ล้านบาทต่อปี

คุณสมบัติสินค้า:

ประกันเหมาจ่ายค่ารักษาโรคร้ายแรงแคร์พลัส(Care Plus)วงเงินสูงสุด 1-5ล้านบาทต่อปี

Share

ประกันเหมาจ่ายค่ารักษาโรคร้ายแรงแคร์พลัส(Care Plus)วงเงินสูงสุด 1-5ล้านบาทต่อปี

ให้ความคุ้มครอง ดูแลโรคมะเร็งและไตวายเรื้อรังทุกระยะ

จุดเด่นแบบประกัน
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล IPD และ OPD สูงสุดถึง 10 ล้านบาท(1) ต่อปีกรมธรรม์
- เข้าถึงนวัตกรรมการรักษาสมัยใหม่สำหรับการรักษาโรคมะเร็งและไตวายเรื้อรัง และยังเสริมความคุ้มครองการบำบัดรักษาโรคทางจิตเวช
- เลือกความคุ้มครองโรคร้ายแรงได้ตามต้องการ หากเลือกทั้ง 2 โรค เบี้ยถูกลงถึง 10%
- หมดกังวล เป็นซ้ำก็คุ้มครอง สมัครได้ตั้งแต่อายุ 30 วัน - 80 ปี คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี

(1) กรณีเลือกความคุ้มครองสำหรับโรคมะเร็งและไตวายเรื้อรังแผน 5 ล้านบาท

 

ความคุ้มครองโรคมะเร็งและไตวาย แคร์ พลัส (Care Plus)
 

 

โรคมะเร็ง (Cancer) หมายถึง เนื้องอกรายที่ได้รับการตรวจยืนยันทางจุลพยาธิวิทยาว่าเป็นมะเร็งโดยมีลักษณะการเจริญเติบโตอย่าง ควบคุมไม่ได้ และรุกล้ำไปยังเนื้อเยื่อส่วนอื่น ทั้งนี้ให้รวมถึงมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และ มะเร็งเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

 ไตวายเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease) หมายถึง ภาวะไตวายเรื้อรังและถาวรที่ได้รับการวินิฉัยโดยชัดแจ้งและได้รับการยืนยัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไต โดยมีหลักฐานทางการแพทย์แสดงถึงการทำงานของไตที่ลดลง ซึ่งเกิดขึ้นเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 90 วันขึ้นไป

 ทั้งนี้ ไตวายเรื้อรังไม่รวมถึง ภาวะไตล้มเหลวเฉียบพลัน หรือภาวะไตวายเฉียบพลัน

โรคทางจิตเวช (Mental Illness) หมายถึง อาการผิดปกติที่ส่งผลเสียอย่างมากต่อการรับรู้ การควบคุมอารมณ์ หรือพฤติกรรม ที่ได้รับ การวินิฉัยโดยชัดแจ้งและได้รับการยืนยันโดยจิตแพทย์ ซึ่งส่งผลให้ผู้เอาประกันภัยมีความบกพร่องทางสังคมและหน้าที่การงาน

 

รายละเอียดความคุ้มครองของแคร์พลัส สำหรับโรคมะเร็ง

ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคมะเร็ง ในขณะที่สัญญาเพิ่มเติมนี้มีผลบังคับ ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขข้อบังคับของ
สัญญาเพิ่มเติมนี้ หากผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง เมื่อพ้นระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (waiting period) เป็นเหตุให้มีความจำเป็นทางการแพทย์ให้ต้องรับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าใช้จ่ายซึ่งเกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลตามความจำเป็นทางการแพทย์และมาตรฐานทางการแพทย์สำหรับค่าบริการทางการแพทย์ เพื่อการบำบัดรักษาโรคมะเร็ง ในกรณีเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในโรงพยาบาล หรือผู้ป่วยนอก ดังต่อไปนี้ ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินจำนวนผลประโยชน์ตามที่ระบุไว้ในหน้าตารางผลประโยชน์ของสัญญาเพิ่มเติมนี้


1.1 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัย

              บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับ ค่าตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ ค่าตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา

ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาและภาพการแพทย์ ค่าบริการรังสีร่วมเพื่อการวินิจฉัย ค่าบริการเวชศาสตร์นิวเคลียร์เพื่อ

การวินิจฉัย ค่าตรวจหัวใจด้วยคลื่นไฟฟ้า ค่าภาพวินิจฉัยขั้นสูงอันได้แก่ การตรวจทางเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) การตรวจด้วยเครื่อง Positron Emission Tomography (PET) และการตรวจการเดิน (Gait scans) ค่าแพทย์อ่านผลตรวจวินิจฉัยดังกล่าว (ถ้ามี) และค่าบริการทางการแพทย์อื่นเพื่อการตรวจวินิจฉัย

 

1.2 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษา ค่าบริการโลหิตและส่วนประกอบของโลหิต

และค่าบริการทางการพยาบาล

              บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าบริการทางการแพทย์เพื่อบำบัดรักษา ค่ากายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัด ค่าบริการโลหิต ค่าบริการเครื่องมือแพทย์ ค่าบริการกายอุปกรณ์ (ไม่รวมค่าอุปกรณ์) ค่าบริการชุดเหมาจ่ายการรักษาพยาบาลบำบัดการรักษา และค่าบริการทางการพยาบาล แต่ไม่รวมถึงค่าบริการทางการพยาบาลเฝ้าไข้พิเศษ


1.3 ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด และค่าเวชภัณฑ์

              บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด และค่าเวชภัณฑ์ แต่ไม่รวมถึง
ค่าเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ ดังนี้

เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator: AED)
เครื่องกระตุกหัวใจ (Defibrillator) หรือเครื่องกระตุ้น (Pacemaker) ที่อยู่ภายนอกร่างกาย

อวัยวะเทียมภายนอกร่างกาย กายอุปกรณ์ อุปกรณ์เทียม
เวชภัณฑ์คงทนใช้ภายนอกร่างกาย (เวชภัณฑ์ 2) เช่น เครื่องมือทางการแพทย์ และเวชภัณฑ์คงทน
เครื่องช่วยฟัง แว่นตา คอนแทคเลนส์ เลนส์แว่นตา เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ออกซิเจน

เครื่องวัดสัญญาณชีพ (ชีพจร ความดันเลือด อุณหภูมิ) เครื่องช่วยค้ำยันต่างๆ รถเข็นผู้ป่วย 

อวัยวะเทียม เช่น แขนเทียม ขาเทียม ตาเทียม
   
1.4 ค่ายาและค่าเวชภัณฑ์สิ้นเปลือง (เวชภัณฑ์ 1) สำหรับกลับบ้าน

              บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่ายาและเวชภัณฑ์สิ้นเปลือง (เวชภัณฑ์ 1) สำหรับกลับบ้าน เพื่อใช้รักษาต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคมะเร็งทางอ้อม ไม่เกินกว่า 30 วันหลังจากการเข้ารับการรักษาพยาบาล ทั้งนี้ไม่เกินกว่า 100,000 บาท ต่อการรักษาพยาบาลครั้งใดครั้งหนึ่ง

 
1.5 ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (แพทย์) ตรวจรักษา

            บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (แพทย์) ตรวจรักษา

 
1.6 ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด (ศัลยกรรม) และหัตถการ

              บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด (ศัลยกรรม) และหัตถการ รวมถึง

ค่าห้องผ่าตัด ค่าห้องทำหัตถการ ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด ค่าเวชภัณฑ์ และค่าอุปกรณ์การผ่าตัดและหัตถการ ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทำศัลยกรรมและหัตถการ สำหรับแพทย์ทำศัลยกรรม และหัตถการ(รวมแพทย์ผู้ช่วยผ่าตัด) (Doctor fee) ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม วิสัญญีแพทย์ (Doctor fee) ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ

              ทั้งนี้ การจ่ายผลประโยชน์ค่าใช้จ่าย ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคมะเร็งในข้อ 1.1 ถึง 1.6 ดังกล่าว จะจ่ายสำหรับวิธีการบำบัดรักษาโรคมะเร็ง ดังต่อไปนี้

รังสีรักษา (Radiotherapy)
รังสีร่วมรักษา(Interventional Radiological Treatment)
เวชศาสตร์นิวเคลียร์รักษา(Nuclear Medicine)
เคมีบำบัด (Cytotoxic Chemotherapy)
ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)
ฮอร์โมนบำบัด (Hormonal Therapy)
การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Transplantation)
การรักษาแบบออกฤทธิ์จำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (Targeted Therapy)
ศัลยกรรมถอนรากถอนโคน (Radical Surgery)
รังสีศัลยกรรม (Radiosurgery)

ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคทางจิตเวช

            ในขณะที่สัญญาเพิ่มเติมนี้มีผลบังคับ ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขข้อบังคับของ

สัญญาเพิ่มเติมนี้ ภายใน 5 ปีกรมธรรม์ประกันภัยนับแต่ปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยเริ่มได้รับการรักษาโรคมะเร็งตามวิธีการที่ได้ระบุไว้ในข้อ 1 หากผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคทางจิตเวชเมื่อพ้นระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (waiting period) เป็นเหตุให้มีความจำเป็นทางการแพทย์ให้ต้องรับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าใช้จ่ายซึ่งเกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลตามความจำเป็นทางการแพทย์และมาตรฐานทางการแพทย์ สำหรับค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยหรือบำบัดรักษาโรคทางจิตเวช โดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมซึ่งเป็นจิตแพทย์ที่ได้รับการรับรองในประเทศไทย ค่าปรึกษาทางจิตเวช ค่ายาประเภทจิตบำบัด ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในแผนกจิตเวชในโรงพยาบาล รวมถึงค่าห้องและค่าอาหาร ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินจำนวนผลประโยชน์ตามที่ระบุไว้ในหน้าตารางผลประโยชน์ของสัญญาเพิ่มเติมนี้

ทั้งนี้ โรคทางจิตเวชไม่รวมถึง

โรคทางจิตเวชที่เกี่ยวข้องกับโรคพิษสุราเรื้อรังและการใช้ยาเสพติด
โรคทางจิตเวชที่ได้รับการวินิจฉัยและได้รับการรักษาในประเทศอื่นนอกเหนือจากประเทศไทย
 

รายละเอียดความคุ้มครองของแคร์พลัส สำหรับไตวายเรื้อรัง

ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาไตวายเรื้อรัง
  ในขณะที่สัญญาเพิ่มเติมนี้มีผลบังคับ ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขข้อบังคับของ

สัญญาเพิ่มเติมนี้ หากผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไตวายเรื้อรัง เมื่อพ้นระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง

(waiting period) เป็นเหตุให้มีความจำเป็นทางการแพทย์ให้ต้องรับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าใช้จ่ายซึ่งเกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลตามความจำเป็นทางการแพทย์และมาตรฐานทางการแพทย์สำหรับค่าบริการทางการแพทย์ เพื่อการบำบัดรักษาไตวายเรื้อรังในกรณีเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในโรงพยาบาล หรือผู้ป่วยนอก ดังต่อไปนี้ ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินจำนวนผลประโยชน์ตามที่ระบุไว้ในหน้าตารางผลประโยชน์ของสัญญาเพิ่มเติมนี้

 
1.1 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัย

              บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับ ค่าตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ ค่าตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา

ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาและภาพการแพทย์ ค่าบริการรังสีร่วมเพื่อการวินิจฉัย ค่าบริการเวชศาสตร์นิวเคลียร์เพื่อ

การวินิจฉัย ค่าตรวจหัวใจด้วยคลื่นไฟฟ้า ค่าภาพวินิจฉัยขั้นสูงอันได้แก่ การตรวจทางเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) การตรวจด้วยเครื่อง Positron Emission Tomography (PET) และการตรวจการเดิน (Gait scans) ค่าแพทย์อ่านผลตรวจวินิจฉัยดังกล่าว (ถ้ามี) และค่าบริการทางการแพทย์อื่นเพื่อการตรวจวินิจฉัย


1.2 ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษา ค่าบริการโลหิตและส่วนประกอบของโลหิต

และค่าบริการทางการพยาบาล

              บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าบริการทางการแพทย์เพื่อบำบัดรักษา ค่ากายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัด ค่าบริการโลหิต ค่าบริการเครื่องมือแพทย์ ค่าบริการกายอุปกรณ์ (ไม่รวมค่าอุปกรณ์) ค่าบริการชุดเหมาจ่าย

การรักษาพยาบาลบำบัดการรักษา และค่าบริการทางการพยาบาล แต่ไม่รวมถึงค่าบริการทางการพยาบาลเฝ้าไข้พิเศษ

 
1.3 ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด และค่าเวชภัณฑ์

              บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด และค่าเวชภัณฑ์ แต่ไม่รวมถึง
ค่าเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ ดังนี้

เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator: AED)
เครื่องกระตุกหัวใจ (Defibrillator) หรือเครื่องกระตุ้น (Pacemaker) ที่อยู่ภายนอกร่างกาย

อวัยวะเทียมภายนอกร่างกาย กายอุปกรณ์ อุปกรณ์เทียม
เวชภัณฑ์คงทนใช้ภายนอกร่างกาย (เวชภัณฑ์ 2) เช่น เครื่องมือทางการแพทย์ และเวชภัณฑ์คงทน
เครื่องช่วยฟัง แว่นตา คอนแทคเลนส์ เลนส์แว่นตา เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ออกซิเจน

เครื่องวัดสัญญาณชีพ (ชีพจร ความดันเลือด อุณหภูมิ) เครื่องช่วยค้ำยันต่างๆ รถเข็นผู้ป่วย 

อวัยวะเทียม เช่น แขนเทียม ขาเทียม ตาเทียม
 

1.4 ค่ายาและค่าเวชภัณฑ์สิ้นเปลือง (เวชภัณฑ์ 1) สำหรับกลับบ้าน

              บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่ายาและเวชภัณฑ์สิ้นเปลือง (เวชภัณฑ์ 1) สำหรับกลับบ้าน เพื่อใช้รักษาต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับการรักษาไตวายเรื้อรังทางอ้อม ไม่เกินกว่า 30 วันหลังจากการเข้ารับการรักษาพยาบาล ทั้งนี้ไม่เกินกว่า 100,000 บาท ต่อการรักษาพยาบาลครั้งใดครั้งหนึ่ง

 
1.5 ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (แพทย์) ตรวจรักษา

            บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (แพทย์) ตรวจรักษา

 
1.6 ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด (ศัลยกรรม) และหัตถการ

              บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด (ศัลยกรรม) และหัตถการ

รวมถึงค่าห้องผ่าตัด ค่าห้องทำหัตถการ ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด ค่าเวชภัณฑ์ และค่าอุปกรณ์การผ่าตัดและหัตถการ ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทำศัลยกรรมและหัตถการ สำหรับแพทย์ทำศัลยกรรม และหัตถการ(รวมแพทย์ผู้ช่วยผ่าตัด) (Doctor fee) ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม วิสัญญีแพทย์ (Doctor fee) ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ

              ทั้งนี้ การจ่ายผลประโยชน์ค่าใช้จ่าย ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาไตวายเรื้อรังในข้อ 1.1 ถึง 1.6 ดังกล่าว จะจ่ายสำหรับวิธีการบำบัดรักษาไตวายเรื้อรัง ดังต่อไปนี้

การล้างไตผ่านทางเส้นเลือด (Regular Hemodialysis)
การล้างไตทางช่องท้อง (Peritoneal Dialysis)
การล้างไตแบบประสิทธิภาพสูง (Online Hemodiafiltration)
การปลูกถ่ายไต (Kidney (renal) Transplantation)
การผ่าตัดเส้นฟอกไต (Vascular Access)
 

ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคทางจิตเวช

            ในขณะที่สัญญาเพิ่มเติมนี้มีผลบังคับ ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขข้อบังคับของ

สัญญาเพิ่มเติมนี้ ภายใน 5 ปีกรมธรรม์ประกันภัยนับแต่ปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยเริ่มได้รับการรักษาไตวายเรื้อรังตามวิธีการที่ได้ระบุไว้ในข้อ 1 หากผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคทางจิตเวชเมื่อพ้นระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (waiting period) เป็นเหตุให้มีความจำเป็นทางการแพทย์ให้ต้องรับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าใช้จ่ายซึ่งเกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลตามความจำเป็นทางการแพทย์และมาตรฐานทางการแพทย์ สำหรับค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยหรือบำบัดรักษาโรคทางจิตเวช โดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมซึ่งเป็นจิตแพทย์ที่ได้รับการรับรองในประเทศไทย ค่าปรึกษาทางจิตเวช ค่ายาประเภทจิตบำบัด ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในแผนกจิตเวชในโรงพยาบาล รวมถึงค่าห้องและค่าอาหาร ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินจำนวนผลประโยชน์ตามที่ระบุไว้ในหน้าตารางผลประโยชน์ของสัญญาเพิ่มเติมนี้

ทั้งนี้ โรคทางจิตเวชไม่รวมถึง

โรคทางจิตเวชที่เกี่ยวข้องกับโรคพิษสุราเรื้อรังและการใช้ยาเสพติด
โรคทางจิตเวชที่ได้รับการวินิจฉัยและได้รับการรักษาในประเทศอื่นนอกเหนือจากประเทศไทย


สนใจวางแผนโรคร้ายแรงแคร์พลัส สอบถาม/เช็คเบี้ย ได้ที่นี่ :

พิชชาธร  คำแสนวงค์ (ปุ้ย)

ผู้จัดการขาย Triple A


หลักเกณฑ์ในการรับประกันภัย

1. อายุเริ่มของผู้ขอเอาประกันภัย : 30 วัน – 80 ปี และความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี (แต่ไม่เกินความคุ้มครองของกรมธรรม์หลัก)


2. การชำระเบี้ยประกันภัย : รายปี ราย 6 เดือน ราย 3 เดือน และรายเดือน (เป็นไปตามกรมธรรม์หลัก) ทั้งนี้ จำนวนเบี้ยประกันภัยรายงวดของทั้งกรมธรรม์ไม่ต่ำกว่า 200 บาท


3. บริษัทสามารถพิจารณารับประกันภัยกรณีที่ภัยต่ำกว่ามาตรฐานได้ (Sub-Standard)


4. รับประกันภัยกลุ่มอาชีพ 1, 2 และ 3


5. การตรวจสุขภาพเป็นไปตามระเบียบการตรวจสุขภาพของแบบประกันภัยหลัก


6. ผู้ขอเอาประกันภัยสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติม แคร์ พลัส ได้มากกว่า 1 สัญญาโดย

ผลประโยชน์สูงสุดต่อการรักษาโรคมะเร็ง รวมทุกสัญญา และ รวมทุกช่องทางแล้วจะต้องไม่เกิน 5,000,000 บาท ต่อผู้ขอเอาประกันภัยแต่ละคน และ
ผลประโยชน์สูงสุดต่อการรักษาไตวายเรื้อรัง รวมทุกสัญญา และ รวมทุกช่องทางแล้วจะต้องไม่เกิน 5,000,000 บาท ต่อผู้ขอเอาประกันภัยแต่ละคน
ทั้งนี้ ผลประโยชน์สูงสุดที่ใช้ในการพิจารณาให้นับรวมทั้งประเภทสามัญ และ ILP

7. สัญญาเพิ่มเติมนี้สามารถซื้อแนบท้ายได้ทั้งกรมธรรม์ใหม่ และกรมธรรม์เดิม รวมถึงสัญญาตะกาฟุล ทั้งนี้ เงื่อนไขของแบบประกันภัยหลัก/สัญญาตะกาฟุลที่สัญญาเพิ่มเติมนี้สามารถแนบท้ายได้มีดังนี้



            7.1 แบบประกันภัยหลัก/สัญญาตะกาฟุลจะต้องมีจำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ/จำนวนเงินหลักประกัน

                  ตะกาฟุลขั้นต่ำ ตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไป ทั้งนี้ ให้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของจำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ/

                  จำนวนเงินหลักประกันตะกาฟุลขั้นต่ำ ของแต่ละแบบประกันภัย/สัญญาตะกาฟุล

            7.2 ระยะเวลาเอาประกันภัย/ระยะเวลาของสัญญาตะกาฟุลนับแต่วันที่ขอเอาประกันต้องมากกว่า 1 ปีขึ้นไป

                  กรณีการซื้อแนบท้ายกรมธรรม์เดิม บริษัทกำหนดให้ตรวจสุขภาพทุกราย ยกเว้นกรณีที่ผู้ขอเอาประกันภัยขอซื้อ

                  สัญญาเพิ่มเติมนี้ ภายใน 6 เดือน หลังจากวันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ โดยกรมธรรม์เดิมใช้ใบคำขอเอาประกัน

                  ชีวิตชนิดมีคำถามสุขภาพอย่างละเอียด และบริษัทรับประกันแบบมาตรฐาน สามารถขอซื้อได้โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ

                  อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 กรณี บริษัทอาจขอเอกสารทางการแพทย์เพิ่มเติมได้

8. ผู้ขอเอาประกันภัยสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติม แคร์ พลัส แนบกับสัญญาเพิ่มเติมอื่น ๆ ได้ รวมถึง

สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ อีลิท เฮลท์ (Elite Health)
สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ อีลิท เฮลท์ พลัส
สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ อีลิท เฮลท์ พลัส สำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ และกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน (แบบชำระค่าการประกันภัยสัญญาเพิ่มเติมโดยการขายคืนหน่วยลงทุน)
9. บริษัทจะพิจารณาจ่ายสินไหมของสัญญาเพิ่มเติม แคร์ พลัส จากใบเสร็จรับเงินฉบับจริงเท่านั้น ไม่สามารถใช้สำเนาใบเสร็จได้

10. สำหรับผู้ขอเอาประกันภัยที่มีสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพอยู่แล้ว และมีความประสงค์จะยกเลิกสัญญาเพิ่มเติมที่มีอยู่และซื้อสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพตามคำสั่งนี้ จะต้องมีการพิจารณารับประกันภัยใหม่ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด


ข้อควรระวัง  :  การซื้อสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพใหม่ จะต้องมีการเริ่มต้นของระยะการรอคอยใหม่ และโรคที่สามารถเรียกร้องค่าชดเชยได้จากสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพที่มีอยู่ หากเป็นโรคเรื้อรังก็จะไม่สามารถเรียกร้องได้จากสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพใหม่ เนื่องจากจะถือเสมือนว่าเป็นโรคที่เกิดขึ้นก่อนสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพมีผลบังคับ

11. บริษัทสงวนสิทธิ์ในการขอเอกสารประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม

การชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิต

เงื่อนไขการชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิต : อนุญาตให้ชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิตและ

           อนุญาตให้ชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัญชีบัตรเครดิต (CCP)

 

ตัวอย่างเบี้ยประกันโรคร้ายแรง แคร์ พลัส




สนใจวางแผนโรคร้ายแรงแคร์พลัส สอบถาม/เช็คเบี้ย ได้ที่นี่ :

พิชชาธร  คำแสนวงค์ (ปุ้ย)

ผู้จัดการขาย Triple A

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้